การมีไขมันหนาเปนชั้นอยูใตผิวหนัง 3. ขนลุกชันเมื่ออากาศหนาวเย็น 4. การสั่นของกลามเนื้อลายเมื่ออากาศหนาวเย็น 9. ฮอรโมนใดทํางานเกี่ยวของกับการควบคุมอุณหภูมิของรางกายนอยที่สุดเมื่ออุณหภูมิของสิ่งแวดลอมต่ํา 1. ไธรอกซิน 2. อะดรีนาลิน 3. นอรอะดรีนาลิน 4. ADH 10. การกระทําวิธีใด ที่จะชวยระบายความรอนออกจากรางกายไดอยางมีประสิทธิภาพต่ําสุด 1. การขับเหงื่อ 2. การหอบ 3. การขยายตัวของเสนเลือดที่ผิวหนัง 4. การเลีย 3. "ETV ติวเขม"วิชาชีววิทยา: การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในรางกาย 3 11. ถาอุณหภูมิของสิ่งแวดลอมสูง ไฮโพทาลามัสจะควบคุมอุณหภูมิรางกายโดยทําให 1. เพิ่มการขับเหงื่อและเสนเลือดขยายตัว 2. เพิ่มการเตนของหัวใจและเสนเลือดหดตัว 3. เพิ่มกลูโคสในเลือดและเพิ่มอัตราเมตาโบลิซึม 4. ลดอัตราการเตนของหัวใจ และอัตราเมตาบอลิซึม 12. ถาอุณหภูมิของสิ่งแวดลอมลดต่ําลงถึง 70 C โครงสรางใดของคนเราจะทํางานนอยที่สุด 1. ไฮโพทาลามัส 2. ตอมใตสมอง 3. ประสาทซิมพาเธติก 4. ตอมเหงื่อ 13. โครงสรางใดเกี่ยวของกับการควบคุมอุณหภูมิของคนเรานอยที่สุด 1. กลามเนื้อลาย 2. ตอมเหงื่อ 3. เสนเลือด 4. ลําไสเล็ก 14.
การรณรงค์ให้เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ในระยะหลังคลอด เนื่องด้วยเหตุผลสำคัญในข้อใด( o-Net กุมภาพันธ์ 2549) 1. น้ำนมแม่มีโปรตีนสูง 2. น้ำนมแม่ไม่มีเชื้อโรค 3. น้ำนมแม่มี แอนติบอดี 4. น้ำนมแม่มีแอนติเจน 17. วัคซีนที่ใช้หยอดป้องกันโรคโปลิโอในเด็ก เป็นสารใด( o-Net กุมภาพันธ์ 2549) 1. แอนติบอดี 2. แอนติเจน 3. เอนไซม์ 4. แอนติไบโอติก 18. ถ้าตรวจเลือดแล้วพบว่าเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นผิดปกติแสดงว่าเป็นโรคใด ( o-Net กุมภาพันธ์ 2550) 1. เอดส์ 2. ติดเชื้อ 3. โลหิตจาง 4. ธาลัสซีเมีย 19. เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวนำแบคทีเรียเข้าสู่เซลล์แล้ว ออร์แกเนลล์ใดทำหน้าที่ย่อยทำลายแบคทีเรียนั้น( O-net มีนา 51) 1. โบโซม 2. ไลโซโซม 3. ไมโทคอนเดรีย 4. กอลจิคอมเพล็กซ์ 20. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของไวรัส HIV ( O-net มีนา 51) 1. ทำลายเซลล์เม็ดเลือดทุกชนิด 2. กลายพันธุ์ได้ง่าย 3. ถ่ายทอดได้ทางเพศสัมพันธ์ หรือรับเลือดจากผู้ติดเชื้อ 4. เพิ่มจำนวนโดยใช้วัตถุดิบจากเซลล์ที่ถูกทำลาย 21. ข้อใดเป็นความจริง ( O-net มีนา 51) 1. ภูมิคุ้มกันที่ทารกได้จากแม่สามารถคุ้มกันโรคได้ทุกชนิด 2. วัคซีนป้องกันโรคไทฟอยด์ผลิตจากจุลินทรีย์ที่มีชีวิต 3.
เมื่อพืชได้รับน้ำมากเกินความต้องการ พืชจะคายน้ำออกทางปากใบ และเมื่อพืชสูญเสียน้ำมาก ปากใบจะปิดเพื่อลดการคายน้ำควบคู่กับการดูดซับน้ำของรากเพื่อลำเลียงน้ำไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของพืช 2. หน่วยไตของคนทำหน้าที่ในการกรองของเสียในเลือดตรงบริเวณที่เรียกว่า โบว์แมนแคปซูล 3. สารที่เป็นประโยชน์บางส่วนที่ถูกกรองผ่านโบว์แมนแคปซูลจะถูกดูดเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้งที่ท่อหน่วยไต 4. ไตจะทำงานร่วมกับสมองส่วนไฮโพทาลามัสเพื่อรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย 5. ร่างกายหายใจออกเพื่อกำจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้ค่าความเป็นกรด-เบสในร่างกายสมดุล 6. สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น พารามีเซียมมีโครงสร้างภายในเซลล์ที่เรียกว่า คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล ซึ่งทำหน้า ที่กำจัดน้ำและของเสียต่าง ๆ ออกนอกเซลล์เพื่อรักษาสมดุลของสารภายในเซลล์ 7. ปัสสาวะของปลาน้ำจืดจะเจือจางมากเนื่องจากได้รับน้ำจากสภาพแวดล้อมในปริมาณมาก ส่วนการลำเลียงแร่ธาตุเข้าร่างกายต้องใช้การลำเลียงแบบใช้พลังงานเพราะสภาพแวดล้อมมีปริมาณแร่ธาตุน้อย 8. ปัสสาวะของปลาทะเลจะเข้มข้นมากเนื่องจากต้องรักษาน้ำในร่างกายไม่ให้แพร่ออกสู่สภาพแวดล้อมส่วนการลำเลียงแร่ธาตุออกนอกร่างกายต้องใช้การลำเลียงแบบใช้พลังงานเพื่อกำจัดแร่ธาตุที่มีปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย 9.
ครูมาแล้ว ขอเสนอ แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง การรักษาดุลยภาพของร่างกายมนุษย์ โดย โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ดาวน์โหลดเกียรติบัตรตามคำแนะนำด้านล่าง ลิ้งก์ทำแบบทดสอบอยู่ด้านล่าง ท่านสามารถรับเกียรติบัตรได้ในวันถัดไปของการทำแบบทดสอบ โดยเข้าไปที่โฟลเดอร์ของวันที่ทำแบบสอบ ตรวจดูรายชื่อและหมายเลขของเกียรติบัตรเพื่อดาวน์โหลดได้อย่างถูกต้อง บทความที่เกี่ยวข้อง:
อุณหภูมิในตนพืชต่ํากวาอุณหภูมิในรางกายคนเรา ทั้งนี้เปนเพราะ 1. เมตาบอลิซึมของคนทําใหเกิดพลังงานความรอนเทานั้น 2. คนมีอัตราเมตาบอลิซึมสูงกวาพืช 3. คนมีการเคลื่อนไหวอยูตลอดเวลา 4. คนมีไขมันเปนฉนวนกั้นไมใหความรอนออกจากรางกาย 15. คนระบายความรอนออกจากรางกายไดมากที่สุดทาง 1. รูจมูก 2. ปาก 3. ตอมเหงื่อ 4. ปสสาวะ 16. กลไกใดตอไปนี้ที่ไปมีผลตอการเพิ่มอุณหภูมิของรางกายโดยตรง 1. เหงื่อแตก 2. ขนลุกและออกกําลังกาย 3. กินอาหารและรางกายหลั่งไธรอกซินออกมามาก 4. หลอดเลือดที่ผิวหนังหดตัวและใสเสื้อกันหนาวหนา ๆ "ETV ติวเขม"วิชาชีววิทยา: การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในรางกาย 4 17. สัตวเลือดอุนรวมทั้งคน มีวิธีการตางๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในรางกายใหคงที่เสมอ ยกเวน ขอใด 1. การหายใจหอบของสุนัขในวันที่อากาศรอนอบอาวมากๆ 2. ขนลุกในขณะที่สิ่งแวดลอมภายนอกหนาวเย็นเพื่อกันการสูญเสียความรอน 3. ลดเมตาบอลิซึมในรางกายเมื่ออากาศหนาวเย็น 4. หลบซอนในที่ๆ มีอุณหภูมิพอเหมาะ 18. ถาอุณหภูมิของสิ่งแวดลอมสูงกวาอุณหภูมิของรางกาย เราจะระบายความรอนออกจากรางกายโดย 1. เพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม เพื่อใหสารพลังงานสูงในรางกายนอยลง 2.
ละลายชั้นไขมันใตผิวหนัง ซึ่งเปนฉนวนกันความรอนออกใหเหลือบางลง 3. เพิ่มการขับเหงื่อ เพื่อใหน้ําออกจากรางกายมากขึ้น 4. หายใจเขาออกอยางรวดเร็ว เพื่อระบายความรอน 19. อากาศรอนกลางเดือนเมษายน จะรูสึกกระสับกระสายและอึดอัด เปนเพราะเหตุใด 1. อุณหภูมิในรางกายจะสูงขึ้น ทําใหปฏิกิริยาเคมีตางๆ ในรางกายเพิ่มมากขึ้นกวาปกติ 2. อุณหภูมิที่สูงมักมีความชื้นสูงดวย รางกายจึงระบายความรอนไดไมดี 3. มีกลูโคสในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ทําใหรูสึกอึดอัด 4. อุณหภูมิภายนอก เปนปจจัยสําคัญไปกระตุนใหรางกายผลิตฮอรโมนเกี่ยวกับเมตาบอลิซึมเพิ่ม มากขึ้น 20. "Thermostat" ของคนเราคือ 1. ตอมเหงื่อ 2. หัวใจ 3. Hypothalamus 4. ตอมไทรอยด
สารละลายไฮโพโทนิค 2. สารละลายไฮเพอร์โทนิค 3. สารละลายไอโซโทนิค 4. อาจเป็น 2 หรือ 3 ก็ได้ 27. เมื่อใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้มากเกินไป ต้นไม้ไม่เจริญงอกงามสมความต้องการแต่กลับเหี่ยวเฉาลงเพราะเหตุใด( O-net มีนา 51) 1. สารละลายในดินมีแรงดันออสโมติกสูงกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากเซลล์ออกสู่ดิน 2. สารละลายในดินมีแรงดันออสโมติกสูงกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากดินเข้าสู่เซลล์ 3. สารละลายในดินมีแรงดันออสโมติกต่ำกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากเซลล์ออกสู่ดิน 4. สารละลายในดินมีแรงดันออสโมติกต่ำกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากดินเข้าสู่เซลล์ 28. ข้อใดต่อไปนี้เกี่ยวข้อง น้อยที่สุด กับการปรับตัวเพื่อลดการคายน้ำของพืช( O-net กุมภาพันธ์ 52) 1. การมีเปลือกแข็งหุ้มลำต้น 2. การมีใบเข็มของต้นกระบองเพชร 3. การสังเคราะห์ด้วยแสงในเวลากลางคืน 4. การมีปากใบด้านหลัง ( ventral) ใบของผักตบชวา 4. หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 29. ข้อความใดถูกต้องเกี่ยวกับการแบ่งเซลล์บริเวณปลายรากหอม ( O-net มีนา 51) 1. เป็นการแบ่งเซลล์แบบไมซิส 2. เมื่อสิ้นสุดการแบ่งจะได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์ 3. เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นมีจำนวนโครโมโซมเท่าเดิม 4. เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นเกิดจาการคอดของเยื่อหุ้มเซลล์ 30.
สวนใหญถูกควบคุมโดยระบบประสาท ง. กําจัดน้ําและเกลือแร ชวยการลําเลียงน้ําและลดอุณหภูมิ เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณผิวใบ สวนใหญควบคุมโดยเซลลคุม กําจัดน้ํา จากตารางเปรียบเทียบการขับเหงื่อและการคายน้ําขางบน ขอใดที่อธิบายไมถูกตอง 1. ก 2. ข 3. ข และ ง 4. ก และ ค 2. "ETV ติวเขม"วิชาชีววิทยา: การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในรางกาย 2 5. สัตวในขอใดมีอัตราเมแทบอลิซึมสูงขึ้นกวาปกติ ก. กบขณะจําศีล ข. หนูทดลองขณะถูกใสไวในตูเย็น ค. หนูทดลองขณะถูกใสไวในตู 50 องศาเซลเซียส 3. ก และ ข 4. ก และ ค 6. สมอง สวนที่ควบคุมอุณหภูมิรางกายของคนเราใหคงที่ คือ สมองสวน 1. Thalamus 2. Hypothalamus 3. Cerebrum 4. Medulla oblongata 7. ถาอุณหภูมิของสิ่งแวดลอมต่ํา รางกายจะปรับตัวโดย 1. = เสนเลือดหดตัว 2. = เพิ่มกลูโคสในเลือด 3. = อัตราเมตาบอลิซึมลดลง 4. = ลดอัตราการเตนของหัวใจ 5. = เพิ่มการหลั่งไธรอกซินและอะดรีนาลิน ขอใดที่ถูกตองคือ ก. ขอ 1, 2 และ 5 ข. ขอ 2, 3 และ 4 ค. ขอ 3, 4 และ 5 ง. ทั้งขอ 1, 2, 3, 4, และ 5 8. กลไกใดชวยเพิ่มอุณหภูมิใหรางกายมนุษยโดยตรง 1. การหดตัวของเสนเลือดที่ผิวหนังเมื่ออากาศหนาวเย็น 2.
นกทะเลใช้ต่อมเกลือในการกำจัดเกลือและแร่ธาตุที่มีปริมาณเกินความต้องการของร่างกาย 10. สมองส่วนไฮโพทาลามัสจะควบคุมดุลยภาพของน้ำและสารต่าง ๆ ในร่างกาย โดยการสั่งต่อมใต้สมองให้กระตุ้นหรือยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน ADH เพื่อควบคุมปริมาณน้ำและสารต่าง ๆ ให้อยู่ในภาวะสมดุล 11. สัตว์เลือดอุ่นสามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้ร่างกายสามารถ ดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ 12.